ซีรีส์เรือธงรุ่นใหม่จาก vivo กำลังจะเปิดตัวในจีนวันที่ 13 ตุลาคม 2025 โดยใช้ชื่อว่า vivo X300 และ vivo X300 Pro ซึ่งจะเป็นมือถือที่มาพร้อมกล้องระดับโปร ดีไซน์บางเฉียบ และชิปเซ็ตตัวแรง MediaTek Dimensity 9500 พร้อมเทคโนโลยีกล้องจาก Zeiss ที่ยกระดับภาพถ่ายให้สมจริงกว่าเดิม
ดีไซน์บางเฉียบระดับ 7 มม. กับจอ AMOLED 120Hz
vivo X300 Series มาพร้อมแนวคิดใหม่ในการออกแบบ ใช้เทคโนโลยี “Cold-sculpting” เพื่อให้ตัวเครื่องมีความบางเพียง ประมาณ 7 มิลลิเมตร แต่ยังคงความแข็งแรงด้วยเฟรมโลหะและกระจก Gorilla Glass รุ่นใหม่ หน้าจอเป็นแบบ LTPO AMOLED ความละเอียดสูง รองรับ รีเฟรชเรต 120Hz และ HDR10+ ให้สีสันคมชัด สมจริงทุกมุมมอง
โดยในรุ่น X300 Pro จะมาพร้อมหน้าจอใหญ่ขึ้นขนาด 6.78 นิ้ว แบบจอแบน ขอบบางเฉียบ สไตล์มินิมอล ส่วนรุ่นพื้นฐานคาดว่าใช้จอขนาด 6.31 นิ้ว พอดีมือ
ชิปแรง Dimensity 9500 + RAM 16GB
หัวใจหลักของซีรีส์นี้คือ ชิป MediaTek Dimensity 9500 ตัวใหม่ล่าสุด ผลิตบนสถาปัตยกรรม 3nm ที่ให้ประสิทธิภาพแรงเทียบเท่าชิป Snapdragon 8 Gen 4 พร้อมรองรับ AI ประมวลผลภาพและระบบกล้องแบบเรียลไทม์
มีตัวเลือกหน่วยความจำสูงสุดถึง RAM 16GB และ ROM 1TB พร้อมระบบระบายความร้อนใหม่ที่ช่วยให้ใช้งานต่อเนื่องได้โดยไม่ร้อนเกินไป โดยรุ่น Pro มีผลทดสอบบน Geekbench ด้วยคะแนนสูงสุดถึง 9,700 คะแนนแบบ Multi-core ซึ่งถือว่าสูงมากในกลุ่มมือถือเรือธงปีนี้
กล้อง ZEISS ระดับโปร 200MP พร้อมเลนส์ Periscope
จุดขายสำคัญของ vivo X300 คือระบบกล้องที่พัฒนา ร่วมกับ ZEISS ยังคงเป็นพันธมิตรหลักด้านออปติคระดับโลก
- vivo X300 คาดว่าจะมีกล้องหลัก 200MP + Ultrawide + Telephoto 3×
- vivo X300 Pro มาพร้อมชุดกล้อง 3 ตัวสุดโหด
- กล้องหลัก 50MP (Sony LYT-828 เซนเซอร์ใหญ่ 1/1.4 นิ้ว)
- Ultrawide 50MP
- กล้อง Periscope Telephoto 200MP
- กล้องหน้า 50MP
รองรับเทคโนโลยี ZEISS T Coating*, ระบบลดแสงแฟลร์, การประมวลผลภาพแบบ multi-frame fusion และ AI Portrait Pro ที่ช่วยให้โทนภาพดูนุ่มลึกเหมือนกล้องโปร
รุ่น Pro ยังมีระบบกันสั่น OIS ระดับเรือธง และฟีเจอร์ติดตามวัตถุ (Object Tracking) เหมาะสำหรับสายถ่ายวิดีโอหรือครีเอเตอร์มืออาชีพ
แบตใหญ่ 6,500 mAh + ชาร์จไว
มีข่าวลือว่า vivo X300 Pro จะมาพร้อม แบตเตอรี่ขนาด 6,500 mAh และระบบ ชาร์จไวแบบ Dual-Cell ซึ่งอาจรองรับกำลังชาร์จสูงสุดถึง 100W Fast Charging ใช้งานได้ยาวนานตลอดวันโดยไม่ต้องพกพาวงจรชาร์จหลายรอบ
รุ่นพื้นฐานเองก็ยังคงชาร์จไว และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ไม่แพ้กัน เหมาะกับผู้ใช้งานที่ต้องการความคล่องตัวในชีวิตประจำวัน
ระบบปฏิบัติการ OriginOS 6 (Android 16)
vivo X300 Series จะเปิดตัวพร้อม OriginOS 6 ที่อิงจาก Android 16 รุ่นล่าสุด เพิ่มฟีเจอร์ด้านความเป็นส่วนตัว การจัดการพลังงาน และการถ่ายภาพด้วย AI ที่ฉลาดขึ้น เช่น การจับโทนผิวอัตโนมัติ การซิงก์ระหว่างโหมดภาพนิ่งและวิดีโอ รวมถึงการแชร์ไฟล์ระหว่างอุปกรณ์ vivo ecosystem ได้สะดวกขึ้นกว่าเดิม
ราคาคาดการณ์และการวางจำหน่าย
แม้ vivo จะยังไม่ประกาศราคาอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่ารุ่น vivo X300 จะเปิดราคาประมาณ 24,900 บาท
ส่วนรุ่น vivo X300 Pro อาจอยู่ที่ราว 33,900–36,900 บาท (ขึ้นอยู่กับความจุและตลาด)
หลังเปิดตัวในจีนวันที่ 13 ตุลาคม 2025 คาดว่าเวอร์ชัน Global / FE (Friendly Edition) จะเปิดตัวในเอเชียและยุโรปภายในปลายเดือนตุลาคมนี้
โดยรวมแล้ว
- vivo X300 Series คือมือถือเรือธงที่น่าจับตาที่สุดในช่วงปลายปี 2025 ด้วย
- กล้อง ZEISS ระดับโปร 200MP
- ชิป Dimensity 9500 แรงสุดของ MediaTek
- ดีไซน์บางเฉียบเพียง 7 มม.
- จอ AMOLED 120Hz สีสดระดับพรีเมียม
- ระบบชาร์จไวและแบตใหญ่
เหมาะกับทั้ง สายถ่ายภาพจริงจัง และ ครีเอเตอร์สายวิดีโอ ที่ต้องการสมดุลระหว่าง “ความบาง + พลังกล้อง + ความเร็ว”
