เวลาเราเริ่มเล่นกล้อง ไม่ว่าจะเป็น DSLR, Mirrorless หรือแม้แต่กล้องมือถือ คำแรก ๆ ที่เจอบ่อยก็คือ “สปีดชัตเตอร์” บางคนฟังแล้วงง ๆ มันคืออะไร? ใช้ยังไง? แล้วทำไมมันถึงสำคัญกับการถ่ายภาพ
จริง ๆ แล้ว Shutter Speed หรือความเร็วชัตเตอร์ ก็คือ ระยะเวลาที่กล้องเปิดม่านชัตเตอร์ให้แสงวิ่งเข้ามาชนเซนเซอร์ นั่นแหละ ถ้าเปิดสั้น แสงเข้ามาน้อย ถ้าเปิดนาน แสงเข้ามามาก แค่นี้เอง
สปีดชัตเตอร์เร็ว = แช่แข็งทุกการเคลื่อนไหว

ลองนึกภาพว่าเรากำลังถ่ายนักวิ่ง 100 เมตร หรือหมาแมวที่วิ่งเล่นกัน ถ้าใช้สปีดชัตเตอร์เร็ว ๆ อย่าง 1/500, 1/1000 หรือ 1/2000 วินาที ภาพที่ได้จะคมกริบ ตัวแบบเหมือนหยุดเวลาเอาไว้เลย เหมาะกับการถ่ายกีฬา รถแข่ง หรือแม้แต่น้ำสาดกระจาย
สปีดชัตเตอร์ช้า = เบลอสวย ๆ ได้ฟีลศิลป์

ในอีกมุมหนึ่ง ถ้าเราอยากได้ภาพสายน้ำที่ดูนุ่ม ๆ เหมือนม่านไหม หรือถ่ายไฟรถลากเส้นยาว ๆ แบบที่เห็นตามรูปกลางคืนใน IG นั่นแหละ เราต้องใช้ สปีดชัตเตอร์ช้า เช่น 1/10, 1/2 วินาที หรือแม้แต่หลายวินาที แต่ก็ต้องมีขาตั้งกล้องช่วย ไม่งั้นภาพจะสั่นไหวทั้งหมด
เคล็ดลับเล็ก ๆ ที่ควรรู้
- ถือกล้องมือเปล่า: มีกฎง่าย ๆ ว่าให้ใช้สปีดชัตเตอร์ประมาณ 1/ความยาวโฟกัสของเลนส์ เช่น เลนส์ 50mm ก็ใช้สัก 1/50 วินาที หรือเร็วกว่านี้ เพื่อไม่ให้ภาพสั่น
- โหมด S หรือ Tv: กล้องส่วนใหญ่มีโหมดให้เราเลือกสปีดชัตเตอร์เอง แล้วกล้องจะช่วยปรับรูรับแสงให้อัตโนมัติ เหมาะมากเวลาฝึก
- ถ่ายวิดีโอ: มีสูตร “180 องศา” คือถ่ายที่ 24fps ก็ใช้สปีดชัตเตอร์ 1/50, ถ่าย 30fps ก็ใช้ 1/60 จะได้การเคลื่อนไหวสมจริง
- Panning: เทคนิคเท่ ๆ ที่เราถ่ายรถแข่ง แล้วกล้องเบลอตามทาง แต่ตัวรถคมชัด ต้องอาศัยสปีดชัตเตอร์ระดับกลาง ๆ และฝึกเลื่อนกล้องไปพร้อมกัน
สั้น ๆ เลยก็คือ
Shutter Speed ไม่ใช่เรื่องยากเลยครับ คิดง่าย ๆ ว่า
- เร็ว = หยุดเวลา
- ช้า = เล่าเรื่องด้วยการเคลื่อนไหว
อยากได้ภาพฟีลไหน เลือกสปีดชัตเตอร์ให้ตรง ใครเริ่มต้นลองหยิบกล้องไปถ่ายน้ำตก รถบนถนนตอนกลางคืน หรือสัตว์เลี้ยงที่บ้าน แล้วคุณจะรู้ว่า “การเล่นกับเวลา” ผ่านสปีดชัตเตอร์ มันสนุกกว่าที่คิด