(อัปเดต สิงหาคม 2025)
● เริ่มต้นง่าย – ใช้แค่มือถือ + ขาตั้ง + ไฟเสริม + เน็ตแรง ก็ไลฟ์ได้แล้ว
● งบประมาณ – เริ่มต้นได้ตั้งแต่ 2,000-5,000 บาท สำหรับอุปกรณ์ครบชุด
● เน็ตแรงพอ – ต้อง Upload Speed 5-10 Mbps สำหรับไลฟ์ Full HD ลื่นไหล
● ข้อแนะนำเร็ว – ทดสอบ Private Live ก่อนไลฟ์จริง + เตรียมสคริปต์สั้นๆ
เลือกอุปกรณ์ไลฟ์สดยังไงให้ตรงกับเรา (เกณฑ์ชัด ๆ)
เกณฑ์ 1: งบประมาณและระดับความจริงจัง
มือใหม่หัดไลฟ์ (งบ 2,000-3,000 บาท):
- สมาร์ทโฟนที่มีอยู่ + Ring Light 12-18 นิ้ว (800-1,500 บาท) + ขาตั้งมือถือ (500-1,500 บาท)
- เหมาะกับการไลฟ์สั้นๆ ไม่เกิน 2 ชั่วโมง
ไลฟ์สดเป็นอาชีพ (งบ 5,000-15,000 บาท):
- เพิ่มไมโครโฟนเสริม (1,000-3,000 บาท) + ไฟ LED Panel หลายดวง + ขาตั้งกล้องระดับมืออาชีพ
- ใช้ไลฟ์ได้ 3-4 ชั่วโมงต่อเนื่อง
เกณฑ์ 2: ประเภทสินค้าที่ขาย
เสื้อผ้า/แฟชั่น: ต้องการไฟที่ให้สีแม่นยำ → เลือก LED Panel หรือ Softbox เครื่องสำอาง/บิวตี้: ต้องการแสงนุ่มเท่ากัน → เลือก Ring Light ขนาด 18 นิ้วขึ้นไป
อาหาร/ของใช้: ต้องการแสงธรรมชาติ → เลือกไฟโทนขาว (5000K-6500K)
เกณฑ์ 3: พื้นที่และความสะดวก
ไลฟ์ที่บ้าน/ห้องเล็ก: Ring Light + ขาตั้งพับได้ เก็บง่าย ไลฟ์ที่ร้าน/ออฟฟิศ: ตั้งสตูดิโอถาวรด้วย LED Panel + ฉากหลัง ไลฟ์เดินทาง: อุปกรณ์พกพา ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา
วิธีจัดห้องไลฟ์ให้ได้ผล (How-to)
ขั้นตอน 1: เลือกมุมและฉากหลัง
- หาผนังเรียบ สีขาว หรือสีพื้นที่ไม่วุ่นวาย
- หลีกเลี่ยงหน้าต่าง แสงธรรมชาติเปลี่ยนตลอดเวลา ทำให้ภาพไม่คงที่
- ระยะห่างฉากหลัง อย่างน้อย 1-2 เมตร เพื่อลดเงา
ขั้นตอน 2: วางไฟและกล้อง
- ไฟหลัก ตั้งอยู่หน้าผู้ไลฟ์ ระดับสายตาหรือสูงกว่าเล็กน้อย
- มือถือ/กล้อง ระดับสายตา ห่างประมาณ 1-1.5 เมตร
- ไฟเสริม (ถ้ามี) ตั้งข้างใดข้างหนึ่ง เพื่อลดเงาใต้คาง
ขั้นตอน 3: จัดวางสินค้า
- โต๊ะสินค้า สีขาวหรือสีพื้น วางระดับเอว-อก
- จัดหมวดหมู่ สินค้าประเภทเดียวกันไว้ด้วยกัน
- ป้ายราคา เขียนชัดเจน อ่านง่าย ปักไว้ในเฟรม
ขั้นตอน 4: ทดสอบก่อนไลฟ์จริง
- Private Live 5-10 นาที ดูภาพ เสียง แสง
- ขอเพื่อนช่วยดู ให้ฟีดแบ็คความชัดเจนของภาพและเสียง
- เช็คเน็ต ดูการกระตุกของภาพ ถ้ากระตุกต้องลดความละเอียด
Tip: ใช้กระจกเล็กวางข้างกล้อง เพื่อเช็คหน้าตาและการแต่งกายก่อนไลฟ์
อินเทอร์เน็ตแรงเท่าไหร่ถึงจะพอ
ความเร็วที่แนะนำตามความละเอียด
ไลฟ์ HD (720p): Upload Speed 3-5 Mbps
ไลฟ์ Full HD (1080p): Upload Speed 5-10 Mbps
ไลฟ์ 2K/4K: Upload Speed 10-20 Mbps ขึ้นไป
เคล็ดลับเน็ตเสถียร
- ใช้เน็ตบ้าน (Fiber) เป็นหลัก + เน็ตมือถือเป็น Backup
- Ping ต่ำกว่า 30ms เพื่อการสตรีมที่ไม่หน่วง
- ปิดแอปอื่น ที่กินเน็ตระหว่างไลฟ์ เช่น YouTube, Netflix
- เทสก่อนไลฟ์ ด้วย Speedtest.net เช็ค Upload Speed
ฉากเขียว (Green Screen) เอาไว้ทำอะไร
ฉากเขียวใช้เทคนิค Chroma Key เพื่อตัดพื้นหลังและใส่ภาพอื่นแทน ซึ่งจะช่วย:
ประโยชน์ของ Green Screen
- ใส่โลโก้แบรนด์ หรือข้อมูลโปรโมชั่นในพื้นหลัง
- เปลี่ยนบรรยากาศ ให้ดูเหมือนอยู่ในครัว สตูดิโอ หรือร้านค้า
- ประหยัดค่าแต่งห้อง ไม่ต้องลงทุนจัดห้องจริง
- ดูมืออาชีพ สร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์
วิธีใช้ให้ได้ผล
- ใช้ผ้าเขียวเรียบ ไม่มีรอยยับ ตึงให้เป็นระเบียบ
- แสงไฟเท่ากัน ไม่มีเงาบนผ้าเขียว
- เลี่ยงใส่ของเขียว ในชุดหรือเครื่องประดับ เพราะจะหายไปด้วย
- ใช้แอปที่รองรับ เช่น OBS Studio, Restream, Streamlabs

แพลตฟอร์มไลฟ์สดแต่ละตัวต่างกันยังไง
Facebook Live
ข้อดี: เข้าถึงได้ง่าย, ผู้ชมมีปฏิสัมพันธ์สูง, แชร์ต่อได้
ข้อเสีย: Algorithm ลดการเข้าถึงเมื่อขายของ
เหมาะกับ: ขายของในกลุ่มปิด, แบรนด์ที่มีแฟนเพจแล้ว
TikTok Live
ข้อดี: ผู้ใช้วัยรุ่นเยอะ, การเข้าถึงอินทรีย์, Product Links ดี
ข้อเสีย: ต้องมีผู้ติดตาม 1,000 คนก่อน, เน้นเอนเตอร์เทนมากกว่าขาย
เหมาะกับ: สินค้าเทรนดี้, กลุ่ม Gen Z
YouTube Live
ข้อดี: คุณภาพภาพสูง, บันทึกอัตโนมัติ, Super Chat ได้เงิน
ข้อเสีย: ต้องมีสมาชิก 50 คน (มือถือ) หรือยืนยันช่อง 24 ชม. (PC)
เหมาะกับ: สินค้าเทคโนโลยี, การสอน, รีวิวเชิงลึก
Shopee Live
ข้อดี: ใช้ได้ทันที, ผู้ใช้สากล, ระบบเน้นการขายสินค้า
ข้อเสีย: ถ้าใช้โทรศัพท์ภาพอาจจะไม่ค่อยชัด
เหมาะกับ: การขายสินค้า
การวางสินค้าให้ดูน่าซื้อ
หลักการวางสินค้า 3 ข้อ
- ใส่ในเฟรม – สินค้าต้องเห็นชัดในกรอบกล้อง ไม่โดนตัด
- แสงส่องถึง – ทุกชิ้นได้แสงเท่ากัน ไม่มีเงาบัง
- จับได้ง่าย – วางในระยะแขนหยิบถึง ไม่ต้องลุกเดิน
เทคนิคเพิ่มยอดขาย
- แยกหมวดหมู่ เสื้อ/กางเกง/กระเป๋า แยกโซนชัดเจน
- สาธิตการใช้ ใส่เสื้อให้ดู ทดลองครีมบนผิว
- เล่าเรื่องสินค้า ใครทำ/ที่ไหน/ทำไมต้องซื้อ (Storytelling)
- ใส่ป้ายราคา เขียนใหญ่ ชัดเจน เด่น อ่านง่าย
- จำกัดปริมาณ “เหลือ 3 ตัวสุดท้าย!” สร้าง Urgency
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ถาม: ไลฟ์สดด้วยมือถือแบตหมดเร็ว ทำยังไง?
ตอบ: เสียบแหล่งจ่ายไฟตลอด + ใช้พัดลมเป่าตัวเครื่อง + ปิดแอปอื่นๆ + ไลฟ์ไม่เกิน 2 ชม.ต่อครั้ง + พิจารณาใช้กล้องแยกแทนมือถือ
ถาม: ห้องเล็ก แสงไม่พอ งบจำกัด ทำยังไง?
ตอบ: ซื้อ Ring Light 12 นิ้ว ราคา 800-1,200 บาท + หาผนังสีขาว + ไลฟ์ช่วงกลางวันใกล้หน้าต่าง (แต่ไม่หันหน้าเข้าหาแสงแดดโดยตรง)
ถาม: เน็ตไม่แรง ภาพกระตุก แก้ยังไง?
ตอบ: ลดความละเอียดเป็น 720p + ใช้ WiFi แทน 4G/5G + ปิดแอปที่กินเน็ต + ไลฟ์ช่วงที่คนใช้เน็ตน้อย เช่น เช้าตรู่ บ่าย 2-4 โมง
ถาม: ไลฟ์ครั้งแรก ควรเตรียมอะไรบ้าง?
ตอบ: เขียนสคริปต์การทักทาย + ลิสสินค้าที่จะแนะนำ + เตรียมโปรโมชั่น + Private Live ทดสอบก่อน + บอกเพื่อนให้เข้าดูพร้อมกัน
ถาม: อยากใช้ Green Screen แต่ไม่มีโปรแกรม?
ตอบ: ใช้แอป OBS Studio (ฟรี) + ดาวน์โหลดภาพพื้นหลังฟรีจาก Unsplash + ดู YouTube สอนการตั้งค่า Chroma Key พื้นฐาน
ถาม: Ring Light กับ LED Panel อันไหนดีกว่า?
ตอบ: Ring Light ดีกว่าสำหรับมือใหม่ (ใช้ง่าย แสงนุ่ม) / LED Panel ดีกว่าสำหรับขายสินค้า (สีแม่นยำ ปรับได้เยอะ แต่ต้องรู้วิธีจัดแสง)
ถาม: ขายบน Facebook กับ TikTok ต่างกันยังไง?
ตอบ: Facebook เน้นข้อมูลสินค้าโดยละเอียด, ราคา, โปรโมชั่น / TikTok เน้นความสนุก เอนเตอร์เทน แฟชั่น เทรนด์ ขายได้แต่ต้องสนุกด้วย
ถาม: ไลฟ์นานเท่าไหร่ถึงจะเหมาะ?
ตอบ: มือใหม่ 30-60 นาที / คนมีประสบการณ์ 1-2 ชม. / เน้นขายของ 45-90 นาที เพื่อไม่ให้ผู้ชมเบื่อ
มาท้ายสุดนี้
การไลฟ์สดด้วยมือถือไม่ได้ยากอย่างที่คิด เริ่มต้นได้ด้วยอุปกรณ์ 4 ชิ้น: มือถือ + ขาตั้ง + ไฟเสริม + เน็ตแรง ก็ไลฟ์สดขายของได้แล้ว
สิ่งสำคัญกว่าอุปกรณ์แพงๆ คือ ความสม่ำเสมอ และ การเตรียมตัว ไลฟ์เป็นประจำ มีสคริปต์พร้อม และโต้ตอบกับผู้ชมอย่างจริงใจ