ชนิดของไมโครโฟน มีกี่ชนิดหลายๆคนคงจะสงสัยว่าตัวไมโครโฟน นั้นมีกี่แบบและแยกโดยอะไร วันนี้เราจะมาพูดกันในเรื่องของชนิดของภาครับเสียงของตัวไมค์ ที่ทำให้หน้ารับเสียงว่าแต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไรมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร โดยหลักการแล้ว จะเป็นการเปลี่ยนคลื่นเสียงเป็นสัญญาณไฟฟ้า โดยหลักๆจะใช้ตัวไดอะแฟรมในการเปลี่ยนแปลงค่านี้ และตัวไดอะแฟรมนั้นมีหลายรูปแบบ โดยไมค์แต่ละประเภทนั้นก็ถูกแบ่งตามรูปแบบไดอะแฟรม นั้นคือ

 

1. ไมโครโฟนชนิดไดนามิค (Dynamic microphone) เป็นไมค์ที่หลากหลายคนเลือกใช้โดยหลักการการ ทำงานของ Dynamic microphone นั้นจะเปลี่ยนคลื่นเสียง ที่มากระทบกับแผ่นไดอะแฟรม ให้เป็นคลื่นกระแสไฟฟ้า ข้อดีคือได้เสียงที่ชัดเจน ครอบคุมทุกย่านความถี่ ตัววงจรไดอะแฟรม ทนทานไม่ฟังง่าย ด้วยการที่ใช้หลักการเปลี่ยนคลื่นเสียงมากระทบไดอะแฟรมในบางครั้งถ้าเสียงที่เราต้องการบันทึกอยู่ห่างจากไมค์ อาจะรับเสียงได้ไม่ดี เราจึงสังเกตูได้ว่า ไมค์ประเภทนี้เวลาใช้งาน เราต้องเอาตัวไมค์ไปจ่อกับแหล่งกำเนิดเสียง

2. ไมโครโฟนชนิดคอนเดนเซอร์ (Condenser microphone) หลักการการทำงานของภาครับเสียงนั้น จะเป็นการปล่อยกระแสไฟฟ้า ตั้งแต่ 1.5V-48V เข้าไปที่ตัวแผ่นไดอะแฟรม แล้วเมื่อมีคลื่นเสียงเข้ามากระทบกับแผ่นไดอะแฟรม ตัววงจรจะเกิดค่าความเปลี่ยนแปลงและนำต่าเหล่านี้ ไปใช้เป็นเสียง เพราะฉะนั้น ตัวไมค์แบบ Condenser จะมีความไวในการรับมาก ทำให้เกิดเสียงรบกวนได้ง่าย ตอบสนองย่ายความถี่ได้ครบถ้วน (เสียงบางอย่างที่หูของมนุษย์ที่แทบจะไม่ได้ยินก็สามารถจับได้ ) ไมค์รูปแบบนี้จึงนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เพราะใช้งานง่ายได้เสียงที่ต้องการแน่ แต่มีข้อเสียงที่ความไวของตัวรับเสียงในกรณีที่ เสียงที่เข้ามากระทบมากเกินไปอาจทำให้อาการเสียงที่ พีด เกินเกิดขึ้นได้ โดยยังมีการแยกย่อยเป็นไมค์  Condenser microphone  และ Electret Condenser อีกด้วย

    

 

3. ไมโครโฟนชนิดคริสตอล (Crystal microphone) หลักการทำงานจะใกล้เคียงกับไมค์แบบ Dynamic แต่ตรงกลางของไดอะเฟรมจะมีแท่งคริสตอลซึ่งจะเป้นตัวให้กำเนิดกระแสไฟฟ้า แต่มีข้อเสียคือเมื่อแท่งคริสตอล เกิดความชื้นหรือความร้อมตัวไมค์จะไม่สามารถใช้งานได้ ในปัจุปัน หาได้ยากแล้วในตลาด

4.ไมโครโฟน ริบบอน (Roibbon microphone) หลักการทำงานจะตัวแผ่นริบบอนรับเสียงอยู่ตรงกลางขั่วสนามแม่เหล็ก เมื่อมีคลื่นเสียงมากระทบ จะเกินกระแสไฟฟ้าเกิดขึ้น  ตัวไมค์จะให้เสียงที่ใสและเป็นธรรมชาติมากเพราะไม่มีคลื่นไฟฟ้าอื่นๆมากวน แต่ข้อเสียคือถ้าเกิดการกระแทกหรือการรับคลื่นเสียงที่แรงเกินไปอาจทำให้ตัวแผ่นริบบอนเกิดความเสียหายได้  

5. ไมโครโฟน แบบคาร์บอน (Carbon microphone)  ตัวคาร์บอนเองนั้นเป็นรูปแบบการรับเสียงแบบแรกๆของการทำไมโครโฟนโดยหลักการนั้น จะใช้ตัวแท่นคาร์บอนในการกำเนิดกระแสไฟฟ้า โดยเมื่อมีคลื่นเสียงมากระทบไดอะเฟรมและคลื่นเหล่านั้นมาโดนแท่งคาร์บอน ก็จะเกิดกระแสไฟฟ้าเกิดขึ้น เนื่องด้วยเป้นเทคโนโลยีในยุคแรกๆความถี่ที่ได้จากไมค์ประเภทนี้ค่อนข้างแคบ ในปัจุปันเราเลยไม่พบเห็นไมค์รูปแบบนี้อีก