การจัดแสงถ่ายรูปแบบต่างๆ 

        การจัดแสงในการถ่ายภาพถือเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลโดยตรงต่อคุณภาพและบรรยากาศของภาพ แสงที่ดีจะช่วยเน้นความงามของวัตถุ, สร้างมิติ, และเพิ่มความน่าสนใจให้กับภาพ แต่การจัดแสงที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้ภาพดูแบนและขาดความสมดุล ดังนั้น การทำความเข้าใจและทดลองจัดแสงในรูปแบบต่างๆ จะช่วยให้คุณสามารถสร้างภาพถ่ายที่มีความเป็นเอกลักษณ์และสวยงามได้ตามที่ต้องการ

 
>>> ต่อไปนี้เป็นวิธีการจัดแสงถ่ายรูปในรูปแบบต่างๆ ที่คุณสามารถนำไปปรับใช้เพื่อสร้างสรรค์ผลงานของคุณให้ดียิ่งขึ้น


1. แสงธรรมชาติ (Natural Light)

แสงธรรมชาติคือแสงจากดวงอาทิตย์ที่ช่วยให้ภาพมีสีสันที่สวยงามและสมจริง วิธีใช้แสงธรรมชาติให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดคือ:

  • ช่วงเวลาในการถ่ายภาพ: แสงธรรมชาติที่ดีที่สุดมักจะอยู่ในช่วง "Golden Hour" (ชั่วโมงทอง) ซึ่งคือช่วงเวลาหลังพระอาทิตย์ขึ้นหรือก่อนพระอาทิตย์ตก ประมาณ 1-2 ชั่วโมง แสงในช่วงเวลานี้จะนุ่มนวลและมีสีสันที่อบอุ่น
  • การใช้เงาและแสง: การถ่ายภาพในแสงธรรมชาติต้องคำนึงถึงทิศทางของแสง ถ้าถ่ายกลางแจ้งในช่วงที่แสงจ้า ให้ใช้เงาจากต้นไม้หรือสิ่งกีดขวางเพื่อช่วยลดความเข้มของแสง
  • ใช้แสงที่เข้ามาจากหน้าต่าง: เมื่อถ่ายภาพในร่ม การใช้แสงที่ส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างจะช่วยให้ภาพดูเป็นธรรมชาติ คุณสามารถใช้ผ้าม่านบางๆ เพื่อกระจายแสงและลดความเข้มของแสงแดดโดยตรง


2. แสงหลัก (Key Light)

แสงหลักเป็นแหล่งแสงที่สำคัญที่สุดในการจัดแสง ใช้เพื่อสร้างรูปร่างและความลึกให้กับวัตถุ

  • ตำแหน่งและทิศทางของแสง: แสงหลักมักถูกวางไว้ทางด้านข้าง 45 องศา จากหน้าของแบบ หรือด้านหน้าขึ้นอยู่กับลักษณะภาพที่ต้องการ ถ้าต้องการเงาที่คมชัด ควรวางแสงหลักใกล้กับแบบมากขึ้น
  • อุปกรณ์ที่ใช้: ใช้ไฟสตูดิโอหรือไฟ LED ที่สามารถปรับความสว่างได้ ใช้ร่วมกับซอฟท์บ็อกซ์เพื่อกระจายแสงให้ดูนุ่มนวล
  • การปรับความเข้มของแสง: ปรับความเข้มของแสงหลักให้สว่างมากกว่าแสงอื่นๆ ในฉากเพื่อให้แบบดูโดดเด่น


3. แสงเสริม (Fill Light)

แสงเสริมใช้เพื่อลดความเข้มของเงาที่เกิดจากแสงหลัก และช่วยให้รายละเอียดในเงาดูชัดเจนมากขึ้น

  • ตำแหน่งของแสงเสริม: วางแสงเสริมในด้านตรงข้ามกับแสงหลัก และอยู่ในมุมที่ต่ำกว่า เพื่อทำให้เงาดูอ่อนลง
  • การปรับความสว่าง: ความสว่างของแสงเสริมควรต่ำกว่าแสงหลัก โดยทั่วไปอยู่ที่ 50-70% ของความสว่างของแสงหลัก
  • การใช้รีเฟลกเตอร์ (Reflector): ถ้าไม่มีแหล่งแสงเสริม คุณสามารถใช้รีเฟลกเตอร์เพื่อสะท้อนแสงจากแสงหลักกลับไปที่วัตถุ เพื่อเติมเต็มเงา


4. แสงหลัง (Back Light)

แสงหลังช่วยสร้างเส้นขอบและทำให้วัตถุแยกออกจากพื้นหลัง เพิ่มความลึกและมิติให้กับภาพ

  • ตำแหน่งของแสงหลัง: วางแสงหลังไว้ด้านหลังของวัตถุ โดยให้อยู่ในมุมที่ตรงข้ามกับกล้อง อาจเป็นมุมสูงหรือมุมต่ำ ขึ้นอยู่กับเอฟเฟกต์ที่ต้องการ
  • การใช้อุปกรณ์: ใช้ไฟ LED หรือไฟแฟลชที่สามารถปรับความสว่างได้ เพื่อให้แสงหลังมีความเข้มที่พอดี
  • การควบคุมเงา: หากเงาที่เกิดขึ้นจากแสงหลังดูเข้มเกินไป สามารถใช้ซอฟท์บ็อกซ์หรือตัวกระจายแสงเพื่อลดความแข็งของเงา


5. แสงข้าง (Side Light)

แสงข้างช่วยเน้นพื้นผิวและรายละเอียดของวัตถุ โดยสร้างเงาที่ช่วยเพิ่มความลึกให้กับภาพ

  • ตำแหน่งของแสงข้าง: วางแสงข้างในมุม 90 องศากับกล้อง เพื่อให้แสงตกกระทบด้านข้างของวัตถุ
  • การใช้อุปกรณ์: ใช้ไฟสตูดิโอที่มีกำลังสูง เพื่อให้แสงแข็งที่สามารถสร้างเงาที่ชัดเจนได้ หรือใช้ซอฟท์บ็อกซ์เพื่อทำให้เงาดูอ่อนลง
  • การปรับความสว่าง: ปรับความสว่างของแสงข้างให้สอดคล้องกับแสงหลักและแสงเสริม เพื่อสร้างความสมดุลในภาพ


6. แสงนุ่ม (Soft Light)

แสงนุ่มคือแสงที่ถูกกระจายออกไปอย่างทั่วถึง ทำให้เงาดูอ่อนโยนและลดความคมของแสง

  • อุปกรณ์ที่ใช้: ใช้ซอฟท์บ็อกซ์, ร่มกระจายแสง, หรือแผ่นกระจายแสงเพื่อให้แสงกระจายอย่างทั่วถึง
  • การวางแสง: วางแหล่งแสงใกล้กับวัตถุและใช้แผ่นกระจายแสง เพื่อทำให้แสงดูนุ่มนวลมากขึ้น
  • การปรับแสง: ปรับความสว่างของแหล่งแสงให้อยู่ในระดับที่ไม่ทำให้วัตถุหรือแบบดูมืดเกินไป


7. แสงแข็ง (Hard Light)

แสงแข็งสร้างเงาที่ชัดเจนและเข้ม สามารถเน้นโครงสร้างและรายละเอียดของวัตถุได้

  • การใช้อุปกรณ์: ใช้ไฟที่ไม่มีการกระจายแสง เช่น ไฟสปอตไลท์ หรือไฟแฟลชโดยตรง
  • การวางตำแหน่งแสง: วางแสงในตำแหน่งที่ต้องการให้เงาตกลงบนวัตถุ เช่น ด้านบนหรือด้านข้าง เพื่อสร้างเอฟเฟกต์เฉพาะ
  • การปรับแสง: ปรับแสงให้ตรงไปยังวัตถุโดยไม่มีการกรองแสง เพื่อให้เงาชัดเจนและคม


8. แสงสี (Colored Light)

การใช้แสงสีช่วยสร้างบรรยากาศและอารมณ์ในภาพ

  • การใช้อุปกรณ์: ใช้ฟิลเตอร์สีติดตั้งบนแหล่งแสง หรือใช้ไฟ RGB LED ที่สามารถปรับสีได้
  • การวางแสง: วางแสงสีไว้ในตำแหน่งที่ต้องการสร้างเอฟเฟกต์ เช่น ด้านหลังหรือด้านข้างของวัตถุ เพื่อให้แสงสีตกกระทบและเปลี่ยนโทนสีของภาพ
  • การปรับสีและความเข้มของแสง: ปรับสีและความเข้มของแสงตามโทนสีและอารมณ์ที่ต้องการสร้าง อาจใช้แสงหลายสีร่วมกันเพื่อสร้างเอฟเฟกต์ที่หลากหลาย
     

การจัดแสงที่ดีจะช่วยให้คุณถ่ายภาพได้สวยงามและมีเอกลักษณ์ ควรทดลองและปรับเปลี่ยนการจัดแสงตามความต้องการและสไตล์ที่คุณชอบครับ!