เวลาที่เราเพิ่งเริ่มหัดถ่ายรูป คำศัพท์แรก ๆ ที่จะได้ยินก็คือ “ค่า f” หรือ “รูรับแสง” (Aperture) หลายคนอาจเคยสงสัยว่ามันคืออะไร ทำไมเวลารีวิวกล้องหรือเลนส์ถึงชอบพูดกันว่า “เลนส์นี้ f/1.8 โบเก้ละลายสวยมาก”
วันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่อง ค่า f แบบภาษาคน เข้าใจง่าย ไม่ต้องเป็นโปรก็อ่านรู้เรื่อง พร้อมแนะนำวิธีใช้จริงให้ถ่ายภาพออกมาสวยขึ้นทันตา 👇
ค่า f คืออะไร?
ค่า f (หรือ f-stop) คือการบอกขนาดของ รูรับแสงในเลนส์ ซึ่งเป็นช่องทางให้แสงวิ่งเข้าสู่เซนเซอร์กล้องหรือมือถือ
- เลข f เล็ก (เช่น f/1.8, f/2.0) → รูรับแสงกว้าง → แสงเข้าเยอะ → เหมาะกับที่มืด และได้ฉากหลังละลาย
- เลข f ใหญ่ (เช่น f/8, f/11, f/16) → รูรับแสงแคบ → แสงเข้าน้อย → เหมาะกับการถ่ายวิว ให้ภาพชัดทั้งเฟรม
👉 พูดง่าย ๆ คือ ค่า f เหมือน “ม่านตา” ของเลนส์ ยิ่งเปิดกว้าง แสงยิ่งเยอะ ภาพยิ่งสว่าง
ทำไมค่า f ถึงสำคัญ?

- ควบคุมความสว่างของภาพ
ถ้าแสงน้อย เช่น ถ่ายกลางคืน ค่า f เล็ก ๆ อย่าง f/1.8 จะช่วยให้แสงเข้าเยอะ ภาพไม่มืด - ควบคุมโบเก้ (ฉากหลังละลาย)
อยากได้ภาพคนที่ฉากหลังเบลอสวย ๆ ให้ใช้ f กว้าง เช่น f/1.8 – f/2.8 - ควบคุมความชัดลึก (Depth of Field)
ถ่ายวิวหรือสถาปัตย์ ใช้ f แคบ ๆ เช่น f/8 – f/16 จะทำให้ทั้งภาพคมชัดตั้งแต่หน้าไปถึงหลัง
ตัวอย่างการใช้งานจริง

- ถ่าย Portrait (คน): ใช้ f/1.8 – f/2.8 ตัวแบบชัด หลังละลายสวย
- ถ่ายอาหาร: ใช้ f/2.8 – f/4 ดึงจุดสนใจให้อยู่ที่อาหาร โดยยังเห็นรายละเอียดรอบ ๆ บ้าง
- ถ่ายวิว: ใช้ f/8 – f/11 ให้ท้องฟ้า ภูเขา น้ำ หรือสิ่งปลูกสร้างคมชัดทั้งเฟรม
- ถ่าย Macro: ค่า f เล็ก ๆ ช่วยให้ตัวแบบเด่น แต่ถ้าอยากได้รายละเอียดคมทั่ว ให้ขยับไป f/8 – f/11
แล้วมือถือปรับค่า f ได้ไหม?
มือถือรุ่นใหม่ ๆ อย่าง iPhone, Samsung, Xiaomi เริ่มมีโหมด Pro / Manual ให้เลือกค่า f ได้บางรุ่น แต่ถ้าไม่มี ก็ยังใช้โหมด Portrait ที่ซอฟต์แวร์จำลองการละลายฉากหลังได้
👉 ถ้าอยากได้โบเก้แบบ “เนียนจริง” ใช้ เลนส์เสริม อย่างเลนส์ Portrait หรือเลนส์ Macro ของ Ulanzi, Fotorgear, Neewer ก็ช่วยได้เยอะครับ
สั้น ๆ เลยก็คือ
ค่า f หรือรูรับแสงคือหัวใจสำคัญของการถ่ายภาพ ไม่ว่าคุณจะใช้กล้องใหญ่หรือมือถือ
- อยากได้แสงเยอะ + หลังละลาย → f เล็ก
- อยากได้ภาพคมชัดทั้งเฟรม → f ใหญ่
แค่ลองเล่นกับค่า f คุณจะเห็นว่าภาพธรรมดา ๆ ของคุณเปลี่ยนเป็นงานที่ดูโปรขึ้นทันทีครับ ✨